เรื่องราวแห่งความประทับใจเกิดขึ้นเมื่อฉันได้มีโอกาสได้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงท่านหนึ่งที่บ้าน พี่พยาบาลชื่อ”พี่อ้อ” พี่ที่มีแต่ความเมตตาเป็นผู้ประสานให้เข้ามาดูแล ผู้ป่วยติดเตียงท่านนี้พอรู้ตัวแต่ไม่สามารถขยับแขนขาได้เนื่องจากท่านอ่อนแรงมาก อดีตท่านมีตำแหน่งทางราชการที่สูงเพราะทุกคนเรียกท่านว่า”อาจารย์”
ในวันแรกที่ฉันเข้ามาดูแลอาจารย์ที่บ้าน ได้พบกับผู้ดูแลประจำ เธอเป็นหญิงสาวชาวพม่ามาดูแลอาจารย์ได้ 5 ปีก่อนที่ท่านจะเจ็บป่วย เธอเล่าว่าอาจารย์เป็นคนจิตใจดี มักชอบชมทุกคนว่าสวย และจะไหว้ทุกครั้งหลังจากที่ช่วยเหลือท่านตามสิ่งที่ท่านขอร้องให้ช่วย มาในช่วงนี้ท่านจะยกมือไม่ไหวแต่จะมีรอยยิ้มให้ฉันทุกครั้งที่ฉันทักทาย คงเป็นเหตุนี้ที่ฉันไม่ได้ขอลาหยุดไปไหน คงมาจากที่อาจารย์มีรอยยิ้มอันน่าประทับใจ
ฉันจะเป็นคนหลักในการดูแลอาจารย์ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงท่านนี้ทุกอย่างตั้งแต่ทำความสะอาดร่างกายให้ผู้ป่วยติดเตียง ให้อาหาร พลิกตะแคงตัวผู้ป่วยติดเตียง โดยมีน้องพม่ามาผลัดนั่งเฝ้าช่วงที่ฉันทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ เวลาผ่านไป 2 เดือนเร็วมาก ฉันทำงานดูแลอาจารย์ผู้ป่วยติดเตียงท่านนี้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ มีตื่นมาพลิกตะแคงตัวอาจารย์ทุก 2 ชั่วโมง จนฉันเริ่มมีอาการปวดเมื่อยตัว ปวดหลัง ฉันได้โทรไปคุยกับพี่อ้อ ว่า
“พี่อ้อขา ฉันปวดเมื่อยไปทั้งตัว ต้องออกแรงยกตัวอาจารย์คนเดียว ตัวอาจารย์มันก็หนักเนาะ ปวดแขนมากกับปวดหลังนี่แหละ อยากพักจังช่วยหาคนแทนให้ด้วย”
พี่อ้อที่เสมือนจะเป็นที่ปรึกษาของบ้านนี้ได้ตอบเสียงอ่อนโยนว่า
“อาการปวดหลังได้ยาทาหรือทานยัง”
ฉันได้ตอบไปว่า”มียานวดทา แต่ไม่หาย”
พี่อ้อรับปากจะหาผู้ดูแลไปแทนให้โดยเร็ว พี่อ้อแนะนำท่าบริหารร่างกายแก่ฉัน พี่อ้อให้ฉันหมั่นเกร็งหน้าท้องเมื่อนึกได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อหลังของฉันคงทำงานแทนกล้ามเนื้อหน้าท้อง พี่อ้อแนะนำท่าบริหารเพิ่มแก่ฉันในท่านอนว่า ให้ฉันกดหน้าท้องลงพื้นที่นอน ให้ทำเป็นประจำ ระหว่างที่ฉันรอการหาผู้มาดูแลแทน
ฉันบริหารร่างกายตามคำแนะนำของพี่อ้อ ฉันพบว่าอาการปวดหลังลดลงจนฉันลืมเรื่องหาคนแทน แต่ขณะเดียวกันฉันก็กังวลใจว่าถ้าฉันไม่อยู่กลัวอาจารย์จะเป็นอะไรไปตอนไหนฉันก็ไม่รู้อีก ว่าแล้วฉันก็ไม่กล้าทิ้งอาจารย์ไปไหน
ฉันเล่าเรื่องอาการกังวลใจให้พี่อ้อฟัง พี่อ้อแจ้งว่าลูกสาวอาจารย์อนุญาตให้มีผู้ดูแล 2 คน และให้ผลัดกันหยุดโดยแจ้งให้พี่อ้อทราบก่อน พี่อ้อช่างดีกับฉันมากจนฉันไม่กล้าแม้กระทั่งบอกเรื่องอยากกลับบ้านต่างจังหวัด
พี่อ้อแนะนำให้ฉันดูทั้งสุขภาพกายและจิตใจ นอกจากแนะนำเรื่องบริหารแล้วพี่อ้อยังแนะนำให้ฉันออกไปหาเพื่อนเพื่อผ่อนคลายบ้าง หรือหยุดไปเข้าวัดทำบุญ ทำจิตใจให้สงบ นั่งสมาธิ สวดมนต์ ใส่บาตร สิ่งที่พี่อ้อแนะนำเป็นกิจกรรมที่ฉันทำเป็นประจำก่อนมาดูแลอาจารย์ ฉันนึกขอบคุณพี่อ้อที่ได้มาทวนในสิ่งที่เคยทำ
จากเรื่องที่เล่าประสบการณ์การดูแลอาจารย์ท่านนี้ ฉันอยากจะแบ่งปันการดูแลตนเองขณะเป็นผู้ดูแลสู่ผู้ดูแลทุกท่าน
ขอแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพตนเองดังนี้
1) ผู้ดูแลควรแบ่งเวลาพักผ่อน หาวันหยุดตัวเองบ้าง
2) หมั่นทำกายบริหารยืดเหยียดด้วยตนเอง
3) ควรมีการนวดด้วยตนเอง
4)หาอาหารเสริมมารับประทานบ้าง
การดูแลสุขภาพทางจิตใจ
1) คิดบวก คือ คิดว่าเป็นหน้าที่ที่ตนต้องทำเพราะว่าเป็น ภรรยา สามี พ่อ แม่ ตา ยาย ทวด ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณทำให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง และจะดูแลผู้ป่วยจนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิตคือให้ตายอย่างสมศักดิ์ศรี
2) ผู้ดูแลควรเข้าวัดทำบุญทำจิตใจให้สงบ นั่งสมาธิ สวดมนต์ ใส่บาตร
3) ควรออกไปหาเพื่อนเพื่อผ่อนคลายบ้าง
4) เมื่อมีการปะทะอารมณ์กันก็ควรเดินหนี
5) หาคนมาดูแลแทนสักระยะเมื่อรู้สึกเครียด
หลังจากที่ได้มาดูแลอาจารย์มา 1 ปี เร็วมากทีเดียว อาจารย์ท่านจากไปอย่างสงบ ลูกสาวคนเดียวของท่านได้เลือกจะดูแลคุณพ่อแบบประคับประคองตามคำสั่งคุณพ่อ ฉันขอบใจพี่อ้อและลูกสาวอาจารย์ได้ให้โอกาสฉันได้เข้ามาดูแลอาจารย์ ฉันได้รับความอบอุ่นและเป็นกันเองมาก ได้มีอาจารย์เป็นต้นแบบที่ดีในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง สิ่งหนึ่งที่ฉันได้รับและไม่ลืมเลยคือ ความเมตตาของพี่อ้อและลูกสาวอาจารย์ ท้ายสุดฉันอยากบอกว่าฉันมีอาวุธประจำตัวในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงแล้ว นั่นคือ “สร้างพลังบวกให้ตนเองจะชนะทุกสิ่ง”